Ladies Review เอาใจผู้หญิงขาลุย มุ่งหน้าสู่ จังหวัดกาญจนบุรี ไปกับ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ดับเบิ้ล แค็บ” ใหม่ กระบะพันธุ์เข้ม ที่จะทำให้คุณรู้ว่า กระบะสูงใหญ่ ไม่เป็นปัญหาสำหรับสาวๆ เอวบางร่างน้อย ที่รักการผจญภัยพร้อมลุยทุกสถานการณ์ สำหรับการพาเที่ยวกาญจนบุรีครั้งนี้ เราใช้เส้นทาง เส้นทางกรุงเทพฯ – บางเลน – กำแพงแสน – กาญจนบุรี จุดหมายปลายทางของทริปนี้ ไฮไลท์อยู่ที่ สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ อำเภอบ่อพลอย ค่ะ
ออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า ข้าวเช้าใดใดก็ยังไม่ได้ทาน อย่างที่คำโบราณ ได้กล่าวไว้ว่า “กองทัพ ต้องเดินด้วยท้อง” ก่อนถึงตัวเมืองกาญจนบุรี เราเลยแวะเติมพลังกันที่ “ครัวอนงค์” ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ ริมถนนของ ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง ที่นี่บรรยากาศสบายๆ แต่ทีเด็ดที่เราตั้งใจมาสั่งโดยเฉพาะ ก็คือ ผัดเผ็ดกระดูกอ่อนใบยี่หร่า บอกเลยว่ามาถึงที่นี่ต้องสั่งค่ะ คือมันดีมาก ก.ไก่ล้านตัว เผ็ด เข้มข้น หอมใบยี่หร่า มากัน 2 คน สั่ง ผัดเผ็ดกระดูกอ่อนใบยี่หร่า และ ไข่เจียว จานใหญ่ ก็อิ่ม ไปได้หนึ่งมื้อแล้วค่ะ
ผัดเผ็ดกระดูกอ่อนใบยี่หร่า
ไข่เจียว
จาก “จากครัวอนงค์” เราก็ขับเจ้า กับ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ดับเบิ้ล แค็บ” ใหม่ มุ่งตรงเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี และปักหมุด GPS ไปที่ ต้นจามจุรียักษ์ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองราวๆ 10 กว่ากิโลเมตร ต้องบอกก่อนเลยว่า แม้ทีมงาน LadyDriveThailand จะมาจังหวัดกายจนบุรีบ่อยครั้ง แต่ยังไม่เคยมาสัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการของต้นจามจุรียักืเลยสักครั้ง เมื่อได้เห็นด้วยตาตัวเองเป็นครั้งแรก บอกเลยว่า สมคำล่ำลือ เพราะใหญ่ยักษ์สมชื่อ แผ่กิ่งก้านสาขาสวยงาม ร่มรื่น มีอายุกว่า 100 ปี ขนาด 10 คนโอบ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้แวะเข้ามาชมความน่าทึ่งของธรรมชาติที่คงอยู่มาอย่างยาวนาน
ระหว่างทางไปต้นจามจุรียักษ์
เก็บภาพสวยๆ จนเป็นที่พึ่งพอใจแล้ว คราวนี้ ขับรถกันยาวๆ ไปยังอำเภอบ่อพลอย ที่ตั้งของ “สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์” สถานที่ที่เราตั้งใจมาสัมผัสกับการให้อาหารน้องยีราฟ กับ น้องม้าลายแบบใกล้ชิดสุดๆ ค่า เมื่อขับเข้ามาก่อนอื่นเลยเราต้องแวะซื้อตั๋วกันก่อน ค่าตั๋วสำหรับผู้ใหญ่ ก็คนละ 200 บาท จะขับรถเข้าไปเอง หรือ นั่งรถมินิบัสของทางสวนสัตว์ไปก็ได้ค่ะ บริการฟรี! แต่สำหรับพวกเรา มากับ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ดับเบิ้ล แค็บ” ใหม่ ซะอย่าง งานนี้เราต้องลุยไปให้สุดค่า และอย่าลืมซื้อแครอทไปฝากน้องๆ ที่อยู่ด้านในด้วยนะคะ ที่นี่มีจำหน่ายในราคา ชุดละ 100 บาทค่ะ
เพียงแค่ประตูบานแรกแรกเปิดความรู้สึกตื้นเต้นก็ถาโถมเข้ามาเลยค่ะ เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับสัตว์ป่าขนาดนี้ โซนแรก เป็นโซนของ กวางฟลอโลว์สีแฟนซี มีน้องกวาง มารอให้เราป้อนอาหารมากมายค่ะ โซนที่ 2 เป็นที่อยู่ของ หมีควาย โซนนี้ดูได้อย่างเดียวห้ามเปิดกระจกค่ะ
และโซนที่ 3 เป็นโซนของ แบล๊คบัคและเนื้อทราย และความตื่นเต้นยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าสู่โซนที่เป็นสัตว์ดุร้าย ห้ามเปิดกระจกเด็ดขาดนะคะ โซนที่ 4 โซนเสือโคร่ง มีให้เห็นอยู่กระจายทั่วไปเลยค่ะ ต่อด้วย โซนที่ 5 สิงโตอัฟริกา โซนที่ 6 เสือดาว และกลับออกมาสู่ความน่ารักของเหล่าบรรดา กวางดาวอินเดีย กวางฟลอโลว์สีขาว และนกอีมู ในโซนที่ 7 และสุดท้าย โซนที่ 8 ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ โซนนี่เป็นที่อยู่ของ ยีราฟ ม้าลาย ลามา นกกระจอกเทศ และนกฟลามิงโก้ นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารน้องๆ เหล่านี้ แบบใกล้ชิด และเก็บภาพน่ารักๆ กันได้แบบเต็มที่เลยค่ะ เสร็จสิ้นทั้ง 8 โซน เหมือนได้หลุดไปอีกโลกหนึ่งที่ได้ผจญภัยไปกับฝูงสัตว์มากมาย รู้สึกได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยหละคะ
ออกจาก “สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์” ก็เป็นเวลาเกือย 4 โมงเย็นแล้ว ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร มาใช้ชีวิตคนกรุง สู้กับรถติดและทำงานดิ้นรนกันต่อไป แต่ระหว่างทางกลับ ขอแวะคาเฟ่ เก๋ๆ ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจ ที่นี่เลยค่ะ Balloon Café ตั้งอยู่ริมถนนถนนแสงชูโต
นมสด โกโก้ เย็นๆ ทานคู่กับ แพนเค้ก หอมๆ ค่า
เวลาก็เริ่มเย็นย่ำ ขอปิดท้ายทริปนี้ ด้วยการฝากท้องมื้อเย็น กันที่ “ครัวบ้านฉัน” ตำบลลาดหญ้า เข้าซอยถนนหอมชื่น ฝั่งตรงข้ามธนาคารออมสิน ไม่ไกลจากแยกลาดหญ้า ร้านอาหารเล็ก ที่มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนทานข้าวที่บ้าน ที่สำคัญ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง จัดมาใหญ่ จุใจ เลยค่ะ
เมนูมื้อเย็นที่ “ครัวบ้านฉัน”
แกงป่าไก่หน่อไม้ดอง รสชาติจัดจ้าน
หมูกรอบทอดน้ำปลา อย่างเด็ด! ค่ะ กรอบ ออกหวานนิดๆ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เข้ากันดีมั่กมาก
กะหล่ำปลี ทอดน้ำปลา จานใหญ่ อร่อยเหมือนรสมือแม่ค่า
อิ่มหนำสำราญ ก็ได้เวลา ขับรถคู่ใจ อย่างเจ้า “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ดับเบิ้ล แค็บ” ใหม่ กลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะ เป็นอีกหนึ่งทริปที่ใช้เวลาวันหยุด 1 วันได้คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ ใครอยากมาตามรอยความประทับใจ ก็มากันได้ที่ กาญจนบุรี จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและหลากหลาย ที่สำคัญอยุ่ไม่ไกลจากกรุงเทพด้วยค่ะ.
Special Thanks
จบทริปนี้ Ladies Review จะพามาทำความรู้จักกับ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ดับเบิ้ล แค็บ” ใหม่ ให้มากยิ่งขึ้น กระบะพันธุ์เข้ม ที่สาวๆ ขาลุย ต้องรับไว้พิจารณา
ความเข้มดุดัน และความแกร่งสะท้อนออกมาจาก DNA มิตซูบิชิ ด้วยดีไซน์ แห่งอนาคต Advanced Dynamic Shield Design เส้นสายรอบตัวที่เฉียบคม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ BI-LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้าย และไฟเบรกแบบ LED พร้อม LED Light Guide ไฟตัดหมอกหน้า สปอยเลอร์หลังดีไซน์แกร่ง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แบบทูโทน และ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมระบบไล่ฝ้า
ขณะที่ ภายใน พื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ห้องโดยสารโทนสีเข้ม ดุดัน อุปกรณ์ทุกชิ้นออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งาน เบาะที่นั่งโอบกระชับรับกับทุกสรีระ พร้อมระบบปรับตำแหน่งด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านคนขับ จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี พร้อม 3D ANIMATION
ด้วยเส้นทางที่เราใช้เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรี อาจจะมีบางจุด ที่เป็นหลุมบ่อ แต่ด้วยแชสซีส์เหล็กกล้า 2 ชั้น ไร้รอยต่อตลอดความยาว และระบบกันสะเทือน ทำให้ห้องโดยสารไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกมากนัก
สำหรับขุมพลัง ก็มากับเครื่องยนต์ไมเวค คลีน ดีเซล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า MIVEC หรือ Mitsubishi Innovation Valve Timing Electronic Control เครื่องยนต์ลิขสิทธิ์เฉพาะจากมิตซูบิชิ ที่มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดีแปรผัน ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงดีขึ้นในรอบต่ำและได้แรงม้ามากขึ้นในรอบสูงอัตราเร่งดี
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม SPORT MODE มาพร้อมสปอร์ตโหมดสามารถควบคุมได้อย่างใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี Off Road Mode และ รุ่นที่ทางทีมงานเราได้ขับนั้นคือ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ดับเบิ้ล แค็บ 4×4 drift lock ซึ่งจะมี ระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง ควบคุมการทำงาน ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลัง ทั้งซ้ายและขวาหมุนเท่ากันตลอดเวลา ทำงานร่วมกับระบบ Center Differential Lock ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางที่วิบากไปได้อย่างง่ายดาย และยังมีเทคโนโลยี ความปลอดภัย รอบคันอีกด้วย
อย่างที่บอกว่าเอาไว้ข้างต้นว่า “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ดับเบิ้ล แค็บ” ใหม่ เป็นรถกระบะ ที่สาวๆ ขาลุย ต้องรับไว้พิจารณา อย่ากังวลว่าจะเหมาะกับสาวๆ อย่างเราไหม แต่ให้คำนึงถึงไลฟ์สไตล์และการใช้งานเป็นสำคัญนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติม (ราคาแต่ละรุ่น) >>> https://www.mitsubishi-motors.co.th/landing/