บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้า “โครงการส่งเสริมการจ้างงานผู้พิการ” (Disabled Employment Project) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 สานต่อความมุ่งมั่นในการมอบโอกาสการทำงานและสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการกว่า 420 คนนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการให้มีรายได้ที่มั่นคง พร้อมช่วยส่งเสริมคุณค่าให้ผู้พิการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและพัฒนาสังคม สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานเพื่อสังคมของมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’
‘โครงการส่งเสริมการจ้างงานผู้พิการ’ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สำนักงานจัดหางานจังหวัด และมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม โดยในปี 2566 นี้ ได้ทำการจ้างงานผู้พิการจำนวนทั้งสิ้น 62 คน แบ่งเป็นการจ้างงานโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย 52 คน และ เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น 10 คน เพื่อช่วยเหลือผู้พิการให้ได้ทำงานในตำแหน่งงานที่เหมาะสมในหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงราย นครศรีธรรมราช ขอนแก่น และชลบุรี ประกอบด้วยหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานด้านสาธารณสุข สถาบันการศึกษา มูลนิธิ และสมาคมต่าง ๆ
เทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นำโดยนายวินัย อินทร์พิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ หนึ่งในหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ช่วยดำเนินการและจัดหาผู้พิการเข้าร่วมโครงการนี้ กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่โครงการนี้ ภายใต้ความร่วมมือกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สามารถช่วยสนับสนุนผู้พิการให้ได้มีงานทำและมีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้พิการได้ตระหนักถึงศักยภาพและคุณค่าของตัวเองที่พวกเขานำมาสู่สังคม โดยเราเชื่อมั่นว่าโอกาสคือสิ่งสำคัญและหวังว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างทัศนคติที่ดี และเปลี่ยนแปลงมุมมองความคิดใหม่ให้กับคนในสังคมที่มีต่อผู้พิการต่อไป”
นายกฤษณะ ชาติบุษย์ ผู้พิการทางมือและขา ปัจจุบันทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของสำนักงานเทศบาลตำบลเสม็ด จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้มาแล้ว 5 ปี ก่อนหน้านี้ ผมมีอาชีพขายของแต่รายได้ไม่มั่นคง การได้รับการจ้างงานจากโครงการนี้ ทำให้มีรายได้ประจำที่มั่นคงและยังมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น ผมขอขอบคุณมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และโครงการนี้ที่ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้พิการเข้าถึงการจ้างงานและได้มีโอกาสเท่าเทียมกับคนอื่น” นายบุญชู สระทองจันทร์ ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ทำหน้าที่ผู้ช่วยดูแลเด็ก ที่มูลนิธิบ้านครูบุญชูเพื่อเด็กพิเศษ กล่าวว่า “ผมทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในโครงการนี้มาแล้ว 3 ปี รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งมอบโอกาสให้ผมได้ทำงานและมีรายได้มาช่วยเหลือครอบครัว”